welcome7.gif

Thai Political

Home | Thai-Usa News | Activities | Computers | Thai Entertainments | Gossip Stars | Thai Political | Thai Political | Movies-Songs | Search | LA Community News

newsflash.gif

.

.

.

.

 

แม่ทัพภาค 4 ยอมเพิ่มจนท.รักษาความปลอดภัยครู

ปัตตานีผลประชุมร่วมสมาพันธ์ครู 3 จว.ชายแดนใต้กับฝ่ายความมั่นคง ทุกฝ่ายพอใจต่อผลการประชุม โดยแม่ทัพภาค 4 ยันพร้อมเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยครูทั้งไปและกลับ ตลอดจนช่วงออกไปทำธุระในเวลา ตามที่ร้องขอ ส่วนรายละเอียดในแต่ละพื้นที่ต้องคุยกันอีกครั้ง ส่วนกรณีการปิดโรงเรียน หากยังไม่พร้อมและไม่มั่นใจในความปลอดภัย ก็ปิดต่อได้ ขณะที่สมาพันธ์ครูฯย้ำโรงเรียนทั่ว 3 จว.ปิดต่อถึง 4 ธ.ค. 
       
       เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้( 28 พ.ย.) โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว อ.เมือง จ.ปัตตานี สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมประชุมกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อหารือถึงมาตรการรักษา ความปลอดภัยของครู หลังประกาศปิดเรียนอย่างไม่มีกำหนดวานนี้ โดยมีผู้เข้าร่วม ประชุมประกอบด้วยตัวแทนสมาพันธ์ครู 3 จังหวัด ตัวแทนจากเขตพื้นที่การศึกษา ทั้ง 7 เขตใน 3 จังหวัดและจาก 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา
       
       ส่วนฝ่ายความมั่นคงประกอบ ด้วย นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(.ศอ.บต.) พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และจังหวัดสตูล ผอ.กอ.รมน.(ทหาร) ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจ( ผบ.ฉก.)ทุกหน่วย และผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ใช้ เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง
       
       พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เปิดแถลงภายหลังการประชุมว่าโรงเรียน ที่เปิดอยู่แล้วไม่มีปัญหา ส่วนโรงเรียนที่ปิดอยู่ หากต้องการมาตรการรักษาความ ปลอดภัยเพียงใดให้ไปคุยรายละเอียดกับ ผบ.ฉก.ที่มีตัวเลข 2 ตัว ซึ่งทำหน้าที่ รักษาความปลอดภัยของแต่ละพื้นที่
       
       ทั้งนี้ ฝ่ายทหารต้องการให้ครูทุกคนเข้าไปคุย เพื่อแลกเปลี่ยนกับเจ้าหน้าที่ ฉก.ที่ดูแลพื้นที่ว่าพอใจหรือไม่พอใจมาตรการ ที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้ไว้หรือไม่อย่างไร ต้องการให้เพิ่มเติมในจุดใด ส่วนกรณีที่ครูต้องการให้รักษาความปลอดภัยขณะเดินทางออกไปทำธุระก่อนเลิกเรียน ก็ขอให้ครูบอกมาว่าจะให้ทางเจ้าหน้าที่จัดชุด รปภ.ครูในเรื่องนี้ก่อนแล้วจะมีอีกชุด ตามมา รปภ.หลังเลิกเรียน
       
       “โรงเรียนใดที่มีข้อสรุปกับทางฝ่ายเจ้าหน้าที่แล้ว คิดว่ามีความพร้อมจะเปิด เมื่อไหร่ก็ได้ จะเปิดพรุ่งนี้เลยก็ยังได้ แต่หากยังไม่มั่นใจจะขอปิดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีข้อสรุปแล้วเกิดความมั่นใจ แต่ทางฝ่ายความมั่นคงก็ขอบอกว่า จะให้เจ้า หน้าที่นำกองกำลังไปประชุมทุกจุดทุกโรงเรียนคงทำไม่ได้เพราะกำลังมีจำกัด และบาง พื้นที่ก็ไม่มีความจำเป็น แต่ทางเจ้าหน้าที่จะทำในลักษณะของงานจรยุทธ์มากกว่า” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
       
       พล.ท.วิโรจน์กล่าวอีกว่าขณะนี้ กองทัพได้ส่งกองกำลังเข้าไปประจำในพื้นที่ ต่างๆ แทบทุกจุดแล้วเพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะครูเกิดความอุ่นใจ แต่จุดอันตราย คือการเดินทางเพื่อไปทำธุระส่วนตัว เพราะฉะนั้นครูก็ต้องดูแลตนเองกันให้มากกว่า นี้และต้องไม่เกิดความประมาท เพราะเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับครูคือการเดินทาง ไปทำธุระส่วนตัว ขณะนี้ฝ่ายคนร้ายได้รู้ความเคลื่อนไหวของครู และจะสะกดรอยตาม เมื่อมีโอกาส เพราะฉะนั้นจึงต้องการให้ ชรบ.อรบ.หรือทาง อส.ช่วยกันสอดส่องดูแล ให้มาก
       
       ส่วนในกรณีที่ไม่มีชุดเหล่านี้ ให้ผู้ปกครองหรือประชาชนที่อยู่ใกล้ โรงเรียนช่วยกันเข้ามาดูแลและปกป้องครู ตอนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่บางส่วนลงไปคุยและทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ถึงผลกระทบที่จะตามมาหากครูถูกลอบทำร้าย
       
       แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวเพิ่มเติม กรณีกระแสข่าวเรื่องการส่งทหารลงมาทำ หน้าที่แทนครูว่า การส่งทหารลงมาทำหน้าที่ครูขอให้เป็นทางออกสุดท้าย หากครูทุกคนในพื้นที่ทำหน้าที่ต่อไปไม่ได้จึงจะดำเนินการต่อไป
       
       นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดกล่าวว่าพอใจกับข้อตกลงที่ได้ พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง โดยผู้บริหารสถานศึกษาแต่ละโรงเรียนจะกลับไปดำเนินการ คุยกับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจประจำพื้นที่เพื่อหาจุดร่วมที่น่าพอใจ และตนขอ ยืนยันว่ากรณีที่สมาพันธ์ครูฯประกาศปิดเรียนอย่างไม่มีกำหนดนั้น ไม่ได้ต้องการกดดันฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงแต่อย่างใด แต่ต้องการรักษาชีวิตของครูทุก คน
       
       ด้านนายปิยะพร มณีรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวกับ ผู้สื่อข่าวหลังการประชุมว่าสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนใต้พอใจในแผนการ ป้องกันและดูแลครูพื้นที่ 3 จังหวัด โดยเฉพาะข้อเสนอของสมาพันธ์ครูที่เสนอต่อที่ประชุม ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้รับฟังและเห็นว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง
       
       “โดยสมาพันธ์ครูฯได้เสนอเพิ่มเติมว่า บริเวณจุดล่อแหลมช่วงรอยต่อระหว่างจังหวัด จะต้องให้มีผู้รับผิดชอบชัดเจน เพราะบริเวณนี้เป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะ เกิดอันตรายมากกว่าจุดอื่น และต้องมีการดึงมวลชนในพื้นที่ ชุมชน ไม่ว่าจะเป็น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้มีส่วนร่วมมากขึ้นกว่านี้ พร้อมทั้งขอให้กองกำลังที่มา ดูแลรักษาความปลอดภัย จะต้องมีประสิทธิภาพสูงและควรอยู่ในพื้นที่อย่างต่อ เนื่อง ไม่ควรสับเปลี่ยนกำลังบ่อย” ผอ.โรงเรียนบ้านปะแตกล่าว
       
       นายปิยะพรแสดงความคิดเห็นว่า ส่วนของนโยบายการปราบปราม จะต้องเป็นเชิงรุกมากกว่า การตั้งรับ ต้องมีการบูรณาการของกองกำลังในพื้นที่ ต้องมีผู้สั่งการอย่างเป็น เอกภาพ เช่น นายอำเภอสั่งทหารได้ และที่สำคัญ ภาครัฐจะต้องเรียกศรัทธาให้ ประชาชนมีความเชื่อถือเชื่อมั่นโดยเร็วที่สุด
       
       นายปิยะพร กล่าวอีกว่า ในการประชุมครั้งนี้สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามได้เข้าร่วมด้วย และได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูซึ่งเป็น ชาวไทยพุทธ และยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐ โดยได้เสนอเพิ่มเติมว่าควรจะนำ โรงเรียนมัธยม โรงเรียนประถมศึกษา และโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนมาทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมทั้งให้ภาครัฐเข้าถึงประชาชนมากกว่านี้ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
       
       นอกจากนี้ ยังฝากทางเจ้าหน้าที่ว่าการใช้กฎหมายจะต้องเด็ดขาด เช่น กฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องทำให้จริงจัง อย่างไรก็ดี ครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงพอใจต่อแผนงานที่ใช้อยู่ เพียงแต่ต้องทำให้จริงจังตาม แผนมากกว่าที่ผ่านมา
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดได้พูดคุยกันเป็นการภายในและตกลง ให้โรงเรียนส่วนใหญ่ที่มีความพร้อม เปิดเรียนพร้อมกันในวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม นี้ ส่วนภายในจังหวัดปัตตานีมีรายงานโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมือง ปัตตานีจะเปิดพร้อมกันในวันพรุ่งนี้

"สุรยุทธ์" ยันยังไม่ถึงเวลายกเลิกกฎอัยการศึก
นายกรัฐมนตรี ยัน ครม.ยังไม่ถกการยกเลิกกฎอัยการศึก แม้อำนาจการยกเลิกจะอยู่ที่รัฐบาล แจงไม่ใช่เรื่องเร่งรีบแต่ต้องคิดให้รอบคอบ

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ไม่ได้มีการพิจารณายกเลิกกฏอัยการศึก เพราะยังไม่ได้รับข้อมูลจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ในการประกอบการตัดสินใจ แต่อำนาจในการประกาศยกเลิกนั้นอยู่ที่รัฐบาลแต่ยังไม่สามารถบอกเวลาในการยกเลิกที่ชัดเจนได้ซึ่งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและการชุมนุมประท้วงก็ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่รัฐบาลไม่ประกาศยกเลิกเพราะได้ผ่อนผันยกเลิกประกาศฉบับที่ 7 ของ คปค.ไปแล้วขณะที่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการประชุมเอเปคที่ประเทศเวียดนามในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพราะได้รับสัญญาณจากเอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยว่าจะไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นเป็นปัญหาในการประชุมเอเปค อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สหรัฐอเมริกาเห็นว่าการเข้ายึดอำนาจของคมช. ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

นายกรัฐมนตรียังระบุว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบหลักการการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2550และรับทราบผลกระทบจากสภาวะแวดล้อมที่สนามบินสุวรรณภูมิ
 
อ่านข่าวทั้งหมดของ INN News ได้ที่นี่
 

หมอพรทิพย์รับคำท้านพดลร่วมงานเผาศพห้างทอง
หมอพรทิพย์รับคำท้านพดลร่วมงานเผาศพห้างทอง ด้านนพดลประสานแพทยสภาอัดเทปคำให้การจริยธรรมผ่าศพกันหมอมือผ่าบิดพลิ้ว

(14พย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายนพดล ธรรมวัฒนะ เรียกร้องให้พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มากราบขอขมาศพนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีตส.ส.กรุงเทพฯพรรคประชากรไทย ซึ่งกำหนดจัดงานฌาปนกิจศพ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ ในวันที่ 19 พ.ย. นี้

พ.ญ. คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตนจะไปร่วมงานฌาปนกิจศพนายห้างทองแน่นอน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเรียกร้องของนายนพดล สำหรับนายนพดลอยากจะให้สัมภาษณ์อย่างไรก็ได้ แต่คดีการเสียชีวิตของนายห้างทองอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยศาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้นายนพดลพูดถึงรายละเอียดของคดี

ส่วนกรณีนายนพดลเข้าร้องเรียนแพทยสภาให้สอบสวนการผ่าศพนายห้างทองผิดจริยธรรมนั้น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า แพทยสภามีหนังสือสอบถามว่าจะเข้าชี้แจงวิธีใด โดยตนได้ตอบกลับไปว่า จะเข้าให้การด้วยตนเอง ต่อมาแพทยสภาส่งหนังสือให้เข้าชี้แจงวันที่ 27 พ.ย. แต่ตนขอเลื่อนนัดเข้าให้การ เพราะติดภารกิจในจังหวัดชายแดนใต้ หลังจากนี้หากแพทยสภานัดเข้าให้การ ขอให้โทรศัพท์มาประสานล่วงหน้าก่อน เนื่องจากตนมีภารกิจตลอด

ด้านนายนพดล กล่าวว่า ในการสอบสวนจริยธรรมการผ่าชันสูตรศพของพญ.คุณหญิงพรทิพย์นั้น ตนได้หารือแพทยสภาให้บันทึกเทปคำให้การพญ.คุณหญิงพรทิพย์ไว้ เพื่อป้องกันการบิดพลิ้ว ที่ผ่านมาแพทยสภาขอให้พญ.คุณหญิงพรทิพย์เข้าชี้แจงเฉพาะประเด็นวิชาการ แต่พญ.คุณหญิงพรทิพย์บ่ายเบี่ยงมาตลอด โดยแพทยสภาอนุญาตให้เลื่อนนัดไม่เกินเดือนธันวาคมนี้ โดยส่วนตัวมองว่า การปฏิบัติของพญ.คุณหญิงพรทิพย์ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อกระบวนการยุติธรรม และสร้างแตกแยกให้กับครอบครัวธรรมวัฒนะ หลังงานศพของนายห้างทองเรื่องคงไม่จบ เพราะยังมีคดีความค้างการพิจารณาในศาลหลายคดี
 
อ่านข่าวทั้งหมดของ คม ชัด ลึก ได้ที่นี่
 

ฟัง พี่จิ๋ว สักหน่อยดีมั้ย [11 พ.ย. 49 - 04:14]

สภากาแฟที่ซบเซาไปนานจะได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

หลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติเป็นเอกฉันท์ ให้ยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 7

เปิดให้ประชาชนชุมนุมทางการเมืองได้เกิน 5 คน

ผ่อนเงื่อนไข คลายกฎเหล็กลงเปลาะหนึ่ง

แต่ที่ได้ยินแล้วน่าตื่นเต้นกว่าการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติยกเลิก ประกาศห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน กับคิวที่ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิก โดยเฉพาะ “ครูหยุย” นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ที่ถามตรงๆเมื่อไหร่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะยกเลิกกฎอัยการศึก

“ขณะนี้มีแนวโน้มสูง น่าจะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกก่อน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมประชุมเอเปคที่เวียดนาม ระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน จะได้ไม่มีปัญหากับมิตรประเทศ สร้างความอึดอัดให้เขา”

ทหารก็คือทหารอยู่วันยังค่ำ

ทื่อๆ ตรงๆ เลี้ยวหลบไม่คล่องเหมือนนักการเมือง

ฟังจาก พล.อ.บุญรอดที่แบไต๋กันตรงๆก็รู้ได้ทันที วันนี้แรงกดดันจากต่างประเทศ ที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย

คือเงื่อนไขหนักสุด

คลื่นใต้น้ำในประเทศไทยไม่มีอานุภาพแรงเท่า คลื่นเหนือน้ำที่พัดข้ามทะเลข้ามมหาสมุทรมาจากนอกประเทศ

ไทยไม่ใช่เมืองปิดอย่างพม่าจะได้ไม่แคร์สายตาใคร

อย่างไรก็ตาม ยังพออุ่นใจฝากความหวังไว้ได้กับความเก๋าและความเป็นสากลของทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ล่าสุดเปิดฟลอร์ชี้แจงทำความเข้าใจกับนักลงทุนและกองทุนต่างชาติ โดยเฉพาะภายหลังการเคลียร์นโยบายเศรษฐกิจพอเพียงของ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง

หุ้นดีดตัวขึ้นในแดนบวก

สัญญาณเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า นักลงทุนในประเทศเริ่มมั่นใจยุทธศาสตร์ที่ผสมผสานทุนเสรีกับ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างชาติที่พอเข้าใจนโยบายการวางแผนของกระทรวงการคลัง

และพูดกันตรงไปตรงมาตามสไตล์ฝรั่ง นายปีเตอร์ แวนฮาเรน นายกสมาคมหอการค้าต่างประเทศ ยอมรับเลยว่า

หากรัฐบาลไทยมีนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจน การค้าการลงทุนในประเทศไทยจะกลับมาสู่ภาวะเดิม ได้ในปี 2550 เนื่องจากเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในครั้งนี้ ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างอื่นๆในประเทศ และรัฐบาลก็ยืนยันแล้วว่าจะเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์ต่อไป แต่ก็ยังมีความกังวลเรื่องกฎหมายนอมินี ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะเร่งแก้ไขให้มีความชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างประเทศ

เน้นที่ความมั่นใจ ขอนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจน

ประสานักลงทุนก็ต้องรอจับสัญญาณจากคนที่พูดจาภาษาเดียวกัน ธรรมชาติของนักธุรกิจก็ต้องให้เครดิตกับมือเศรษฐกิจ

โชคดีนาทีนี้ทีมของ “หม่อมอุ๋ย” พอขายความเป็นอินเตอร์ได้

ซาร์เศรษฐกิจพูดแล้ว นักธุรกิจเชื่อ

แต่ที่ไม่แน่ใจ ทหารจะเชื่อทหารด้วยกันหรือไม่

ล่าสุด “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ได้รับสมญาขงเบ้งกองทัพ ออกมาส่งซิกเตือนรุ่นน้อง แบบนิ่มๆ

กรณีบิ๊กๆในเครือข่ายคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ตบเท้าเข้าไปนั่งเป็นประธานบอร์ดและกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหญ่ๆ

จนชาวบ้านชักเอะใจ ยึดอำนาจเพื่อใครกันแน่

“ไม่มีอะไรจะยืนยงได้ ถ้าประชาชนไม่สนับสนุน ฉะนั้นต้องระมัดระวังให้ดี ทหารอาจไม่รู้เรื่องอะไรมาก”

พี่เตือนแล้วนะ น้องๆ.

ติดต่อผมที่

knightman1976@yahoo.com

Full name:
Email address:
Comment: