welcome7.gif

Thai Political

Home | Thai-Usa News | Activities | Computers | Thai Entertainments | Gossip Stars | Thai Political | Thai Political | Movies-Songs | Search | LA Community News

ต้อนรับท่านสู่ website ที่ให้ข้อมูลด้านข่าวสารการเมือง การบรรเทิง และความเคลื่อนไหวต่างๆในแวดวงมายาของไทย และหากท่านใดมีข้อมูลที่ท่านคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้าเยี่ยมชม web นี้ ก็สามารถที่จะส่งข้อมูลนั้นๆ มาที่ web ของผมได้ ผมจะยินดีอย่างมาก และนอกจากนี้ท่านยังสามารถส่งคำติชมมาทาง website นี้ได้เช่นกัน

การเมืองไทย
 
.

.

soryut.gif

“เสรีพิศุทธ์” ขีดเส้นตาย ตร.ภาค 3 - ไฟไหม้ ร.ร.อีกต้องจับมือเผาได้ใน 10 วัน
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผบ.ตร. เดินทางมามอบนโยบาย และติดตามคดีเพลิงไหม้โรงเรียน ในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 โดยมี พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 และคณะ ให้การต้อนรับ (9ก.พ.)


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส




พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 สีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เดินทักทายนายตำรวจที่มารับมอบนโยบาย

กลุ่มภาคีครูโคราช เข้ามอบช่อดอกไม้และยื่นหนังสือเรียกร้องติดตามคดีเผาโรงเรียน ต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เดินสายมอบนโยบาย และติดตามคดีเพลิงไหม้โรงเรียนในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ด้านภาคีโคราชบุกยื่นร้องเร่งสางคดีเผาโรงเรียน-จัดการ ตร.เกียร์ว่าง ยัดเยียดให้ครูเป็นแพะ รักษาการ ผบ.ตร. ชี้ภาค 3 ไฟไหม้โรงเรียนติดต่อกัน 22 ครั้งถือว่าเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่มี 4-5 คดีที่เป็นเหตุการณ์สำคัญอาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ป่วนของคลื่นใต้น้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน ลั่นขีดเส้นตายหากมีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนเกิดขึ้นในพื้นที่อีกต้องเร่งคลี่คลายคดีจับกุมคนร้ายให้ได้ภายใน 10 วัน และต้องเป็นตัวจริงไม่ใช่ “แพะ” หากละเลย ผกก.และผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องรับผิดชอบ พร้อมย้ำนโยบายดูแลและพัฒนาทรัพยากรบุคคลตำรวจให้ดีที่สุด
       
       วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางมามอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 และติดตามความคืบหน้าคดีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียน โดยมี พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วยคณะรองผบช.ภ. 3, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, หัวหน้าสถานีตำรวจ ใน 8 จังหวัดอีสานตอนล่างในพื้นที่รับผิดชอบ ตำรวจภูธรภาค 3 และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับกว่า 277 นาย
       
       หลังเดินทางถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ตรวจแถวกองเกียรติยศ จากนั้นกลุ่มภาคีครูโคราชนำโดย นายวิทยา ดวงใจ ได้เข้ามอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจและยื่นหนังสือเปิดผนึก เรื่องให้ติดตามคดีเผาโรงเรียนต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โดยเรียกร้องให้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ที่ลอบเผาโรงเรียนมาลงโทษโดยเร็ว ให้จัดการตำรวจที่ใส่เกียร์ว่าง อิงอำนาจเก่าไม่สนองนโยบายรัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ด้วยการโยกย้ายและไม่ให้มีบทบาทในความรับผิดชอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ครู นักเรียน นักการภารโรงและชุมชนที่ถูกละเมิดยัดเยียดข้อหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแทนที่จะเป็นมือเผาตัวจริง ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รับปากที่จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้
       
       จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปจาก พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ. 3 นานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่ง พล.ต.ท.สถาพร รายงานสรุปเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงเรียนในพื้นที 8 จังหวัดอีสานตอนล่างในเขตความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2549 จนถึงขณะนี้ว่ามีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น 22 ครั้ง แบ่งเป็น สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้แล้ว 10 แห่ง รวมผู้ต้องหา 12 คน, เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร 7 แห่ง และคดีอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ติดตามตัวผู้กระทำผิด 5 แห่ง ประกอบด้วย ร.ร.สกัดนาควิทยา อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา, รร.จำนันสายเจริญ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ, ร.ร.บ้านวังปลัด อ.สังขะ จ. สุรินทร์,ร.ร.ชุมชนบ้านนาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ. บุรีรัมย์ และ ร.ร.บ้านโสกผักหวาน อ.ทรายมูล จ.ยโสธร
       
       นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุการณ์ขู่วางระเบิดรวม 22 ครั้ง ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา 7 ครั้ง, บุรีรัมย์-สุรินทร์ จังหวัดละ 5 ครั้ง ,ศรีสะเกษ 4 ครั้ง และ จ. ชัยภูมิ 1 ครั้ง
       
       
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากรายงานของตำรวจภูธรภาค 3 ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2549 จนถึงขณะนี้ พบว่ามีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนเกิดขึ้นทั้งสิ้น 22 แห่ง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากและเกิดติดต่อกันขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพราะเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ก็นำมารายงานจึงทำให้มีจำนวนมาก
       

       ปัญหาการวางเพลิงควรจะต้องเน้นไปว่ากรณีใดที่เป็นคลื่นใต้น้ำ หรือเป็นการป่วนเมืองบ้าง แต่ถ้าหากเกิดไฟไหม้ความเสียหาย 200-300 บาทก็รายงานจึงทำให้ตัวเลขมันสูง จากนี้ไปคงจะต้องพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าสถานการณ์อย่างไรควรจะรายงานบ้าง เพราะการรายงานปัจจุบันมันเลอะและมากจนเกินไป เช่น คนขโมยของ 1 บาท ก็เอามารายงาน มันก็มากไป
       
       อย่างไรก็ตาม มีเหตุเพลิงไหม้ 4-5 คดีที่เป็นเรื่องสำคัญ หรืออาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ป่วน ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ แต่ตนยังไม่ได้มีโอกาสลงไปดูรายละเอียดของสำนวนการสอบสวน เพียงแต่ได้สั่งการไปว่าให้ดำเนินการให้เรียบร้อย
       
       ทั้งนี้ สิ่งที่ได้รับรายงานจากภาค 3 นั้น ดูแล้วการวางแผนในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาชญากรรมหรือเกิดเพลิงไหม้ หรือการวางแผนที่จะไปสืบสวนติดตามถือว่าใช้ได้ และอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก เพียงแต่ได้กำชับไปว่าเมื่อวางแผนกันไปแล้วก็ขอให้ตรวจสอบติดตาม ปฏิบัติและดำเนินการให้เป็นไปตามแผนให้ได้ด้วย ไม่ใช่คิดได้แต่ทำไม่ได้ และวันนี้ได้เน้นให้ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ผู้บังคับการ และหัวหน้าสถานีตำรวจ ให้ความสนใจในเรื่องนี้ เช่น เรื่องการติดตามตรวจสอบ การประเมินผลอย่างเป็นระบบที่แท้จริง ไม่ใช่คิดวางแผนแล้วจบทำแบบนั้นไม่ได้ กำกับดูแลติดตาม
       
       พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า การติดตามการสอบสวนคดีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนของตำรวจภูธรภาค 3 ในวันนี้ (9 ก.พ.) ในภาพรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ เพราะเหลืออีกไม่กี่คดี ซึ่งอันนี้อาจจะต้องดูสำนวนการสอบสวนเป็นพิเศษต่างหากอีกที และในช่วงบ่ายวันนี้ (9 ก.พ.) ตนจะลงพื้นที่ได้ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ โรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าของพื้นที่ได้คัดเลือกให้ลงไปดู ซึ่งเขาวิเคราะห์แล้วว่าควรจะให้ลงไปดูพื้นที่ใด และแนวทางการดำเนินการดีอยู่แล้วเพียงแต่ให้ลงไปติดตามตรวจสอบอย่างจริงจังด้วย
       
       “เรื่องเพลิงไหม้โรงเรียนหากเกิดขึ้นมาอีก ทางผู้รับผิดชอบจะต้องเร่งสอบสวนและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ภายใน 10 วัน ถ้าไม่ได้ก็จะดูเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ได้ เป็นเรื่องที่ผู้กำกับการ ผู้บังคับการ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เข้มงวดกวดขันเต็มที่ ตามที่ได้พูดคุยสั่งการกันไว้บ้างหรือไม่ ถ้าละเลยก็ต้องว่ากัน หากเขาทำงานอย่างเต็มที่แล้วเราก็จะฟังเหตุผล และกรณีที่จับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้จะต้องเป็นคนร้ายตัวจริง ไม่ใช่เป็นการจับแพะ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
       
       พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การมอบนโยบายในวันนี้ได้ขอให้ผู้บังคับบัญชาได้เน้นเรื่องของคน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดกิจการงานต่างๆ สำเร็จได้ด้วยคน จึงได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้เน้นพัฒนาดูแลข้าราชการตำรวจ ผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงครอบครัวให้ดีที่สุด และให้ดูแลให้มีความพร้อม ทั้งร่างกายความคิดและจิตใจรวมถึงสวัสดิการต่างๆ ซึ่งตนได้เล่าประสบการณ์ในการบริหารจัดการ การป้องกัน ปราบปราม อาชญากรรม การป้องกันคอมมิวนิสต์ โจรเรียกค่าไถ่ และแนะนำเกี่ยวกับการทำงานในเรื่องการป้องกันและปราบปราม โดยเฉพาะเรื่องเพลิงไหม้ด้วย
       
       “สิ่งที่กำชับในการเดินทางมาครั้งนี้คือ ขอให้รักษาระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด การปล่อยปละละเลยในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรื่องใดเรื่องหนึ่งก็แล้วแต่อาจจะทำให้เกิดเรื่องที่ 2 เรื่องที่ 3 ตามมาและมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะฉะนั้น ขณะนี้เวลานี้อะไรเป็นปัญหาก็ให้รีบแก้ไขให้ถูกต้อง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
       
       ส่วนกรณีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายในตำรวจภูธรภาค 3 เกิดขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาเน้นเรื่องนี้ มาครั้งนี้เป็นเรื่องทั่วไปในการปฏิบัติงาน และดูทั่วไปทั้งหมด

 

.

การเมืองเรื่องยุ่งๆๆๆๆ

jiw.gif





นายกฯย้ำร่วมมือคตส.ฟันทุจริตเต็มที่-ปัดจองล้างอำนาจเก่า
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
       "สุรยุทธ์" โต้ทรท.ย้ำไม่ได้จ้องแต่ล้มล้างอำนาจเก่า เรื่องไหนดีก็สานต่อ แต่พร้อมให้ความร่วมมือ คตส.-ปปช.ตรวจสอบทุจริตเต็มที่ ส่วนผลของคดีจะออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับคำตัดสินของศาล ตามกระบวนการยุติธรรม
       
       วันนี้(10 ก.พ.) ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาและแสดงปฐกถาพิเศษเรื่อง “การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสังคมไทย” ตอบโต้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่กล่าวหารัฐบาลไม่สนใจแก้ปัญหาประชาชน มีแต่คอยจะล้มล้างจัดการกับกลุ่มอำนาจเก่าอย่างเดียวว่า รัฐบาลไม่ได้มุ่งเน้นไปอย่างนั้น
       
       นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลต้องทำหน้าที่บริหารงานของชาติบ้านเมือง เรื่องใดที่จำเป็นจะต้องแก้ไขก็จะทำ และว่าเรื่องใดที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาทำไว้ดีแล้วก็จะสานต่อ ไม่ได้มุ่งเน้นที่จะล้มล้างสิ่งที่ทำไว้ดีแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจสอบการดำเนินการต่าง ๆ ก็มีคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลก็มีหน้าที่ ๆ จะให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลตามที่หน่วยงานซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบได้ขอมาและตนก็ได้ชี้แจงชัดเจนไปแล้วว่าหากผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบมีข้อขัดข้องในเรื่องใด ๆ ที่ชัดเจนแล้วก็ขอให้บอกตนมา ตนจะได้ดำเนินการโดยใช้อำนาจบริหารให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นได้
       
       เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าเมื่อถึงชั้นศาลแล้วคดีมักจะหลุดทั้งหมด รัฐบาลจะเข้าไปช่วยดูเพื่อให้หลักฐานชัดเจนมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไปก้าวก่ายในส่วนนั้นไม่ได้ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะต้องประกอบด้วยการสอบสวน การดำเนินการต่าง ๆ ตามที่ คตส.หรือป.ป.ช.ได้ดำเนินการไป ส่วนเรื่องการตัดสินในชั้นศาลตนคงไปให้ข้อคิดเห็นไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของศาลยุติธรรม
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้เวลาผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีการส่งฟ้องศาลแม้แต่คดีเดียวในเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตของรัฐบาลชุดที่แล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พวกเราคาดหวังว่าการทำงานจะสำเร็จได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้ดำเนินการเอง การที่จะหาหลักฐาน การดำเนินการตรวจสอบไม่ได้เป็นเรื่องง่าย ๆ รวมทั้งการหาคนที่ทำผิดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน จึงเป็นเรื่องที่ลำบากสำหรับคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ
       
       “ผมมาพูดที่นิด้าวันนี้ก็ยกเหตุผลเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลมาพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคราชการ เพราะถ้าเรามีข้าราชการที่มีคุณธรรม มีผู้บริหารซึ่งมีธรรมาภิบาล เหตุการณ์เหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น”นายกรัฐมนตรี กล่าว

new5.gif

“โกวิท” ไม่นิ่งนอนใจ สั่ง “พงศพัศ พงษ์เจริญ” ผบช.นรต.เตรียมพร้อมข้อมูลโครงสร้างตำรวจทั่วโลก ไว้รับมือรื้อใหญ่ตำรวจไทย พร้อมเตรียมจัดสัมมนาสรุปเสนอคณะกรรมการของรัฐบาล “พงศพัศ” แนะควรศึกษารอบด้านอย่างแท้จริง ก่อนเปลี่ยนแปลง
       

ติดต่อผมที่

knightman1976@yahoo.com

Full name:
Email address:
Comment: